บทบรรณาธิการที่สะท้อนทัศนะของรัฐบาลสหรัฐฯ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์โลกด้านสิทธิมนุษยชนประจำปี 2020
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี่ บลิงเคน กล่าวว่า รายงานที่สหรัฐฯ กำลังเผยแพร่อยู่นี้แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มด้านสิทธิมนุษยชนยังคงดำเนินไปในทิศทางที่ผิด ดังหลักฐานที่เห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก
ตัวอย่างเช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นกับชาวอุยกูร์ที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์และศาสนาอื่น ๆ ในมณฑลซินเจียง การโจมตีและการจำคุกนักการเมืองฝ่ายค้าน นักเคลื่อนไหวต่อต้านการคอร์รัปชั่น และนักข่าวอิสระในที่ต่าง ๆ เช่น รัสเซีย ยูกานดา เวเนซุเอลา
นอกจากนี้ยังมีการจับกุม การทำร้ายร่างกาย และความรุนแรงอื่น ๆ ต่อผู้ประท้วงในกรุงเบลารุสโดยพลการ การละเมิดและการทารุณกรรมที่เกิดขึ้นกับชาวเยเมนโดยพรรคการเมืองที่ขัดแย้งกันในประเทศนั้น การสังหาร การข่มขืนกระทำชำเราและการทารุณกรรมอื่น ๆ ที่มีรายงานที่น่าเชื่อถือได้ในภูมิภาคทิเกรย์ของประเทศเอธิโอเปีย และการประหารชีวิต การถูกทำให้หายสาบสูญและการทารุณกรรมโดยระบอบการปกครองของซีเรีย รวมถึงการโจมตีโรงเรียน ตลาด และโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีไบเดน และรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะนำเรื่องสิทธิมนุษยชนกลับมาเป็นศูนย์กลางของนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ รมต. บลิงเคน กล่าวว่า สหรัฐฯ ต้องการที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนในทุกหนทุกแห่ง
ประเทศที่ยอมรับความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับรัฐบาล ลงโทษการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุจริตและประพฤติมิชอบ เคารพกฎหมายแรงงาน ผู้คนทุกพื้นเพมีโอกาสเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกัน ล้วนเป็นประเทศที่มีแนวโน้มที่จะมีความสงบสุข เจริญก้าวหน้า มั่นคง และรัฐบาลที่เคารพสิทธิมนุษยชนมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนคำสั่งระหว่างประเทศที่อิงตามกฎซึ่งสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรได้สร้างขึ้น และลงทุนมาเป็นเวลาหลายสิบปี
อย่างไรก็ตาม รมต. บลิงเคน กล่าวว่า สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่ใช้ความรุนแรงเหนือประชาชนของตน
“ประเทศที่ฝ่าฝืนกฎที่ยอมรับในระดับสากลนอกพรมแดนของตนมักจะเป็นประเทศเดิม ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโดยการริดรอนดินแดนของประเทศอื่น เปิดการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต ก่อกวนผู้ที่ไม่เห็นด้วย เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนหรือละเมิดกฎทางการค้า เป็นต้น”
รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรเพื่อนำผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาลงโทษ
“การยืนหยัดเพื่อเสรีภาพและศักดิ์ศรีของประชาชนถือเป็นเกียรติอันสูงสุดของสหรัฐฯ สหรัฐฯ จะยืนหยัดเพื่อเสรีภาพและความยุติธรรม ไม่ใช่แต่เฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่สำหรับทุกประเทศทั่วโลก”