บทบรรณาธิการที่สะท้อนทัศนะของรัฐบาลสหรัฐฯ
ถ้อยแถลงของอิหร่านที่จะขยายโครงการนิวเคลียร์ การยิงขีปนาวุธ การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายและระบอบการปกครองแบบอาชญากรของประธานาธิบดี บะชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) อย่างต่อเนื่อง และรายงานการเจรจากับจีน ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรที่ใช้ระบอบการปกครองแบบเผด็จการ ในการหลอมรวมหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์มานาน 25 ปีเข้าด้วยกัน เป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนไปทั่วโลก
แต่สิ่งที่ต้องถูกจารึกไว้เกี่ยวกับกิจกรรมที่มุ่งร้ายของระบอบการปกครองของอิหร่าน ก็คือความทุกข์ทรมานของพลเมืองอิหร่านจากการกระทำของรัฐบาล
ศูนย์สิทธิมนุษยชนของชาวอิหร่านที่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก มีรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บาฮาเรห์ เฮดายัต (Bahareh Hedayat) นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีและนักศึกษาที่มีชื่อเสียงได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาสี่ปีแปดเดือน
เธอถูกจับในข้อหาร่วมชุมนุมและสมรู้ร่วมคิดในการต่อต้านความมั่นคงของชาติ ตลอดจนโฆษณาชวนเชื่อให้ต่อต้านรัฐบาล หลังจากที่เข้าร่วมการประท้วงอย่างสันติในกรุงเตหะราน ภายหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารพาณิชย์ของยูเครนถูกยิงตกโดยกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม IRGC เมื่อเดือนมกราคมพ.ศ. 2563
นอกจากนี้ เฮดายัตได้ทวีตข้อความเปรียบเทียบการเสียชีวิตของผู้โดยสาร 176 คนกับการที่ชาวอิหร่านหลายร้อยคนถูกสังหารโดยกองกำลังความมั่นคงของรัฐเมื่อมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562
เฮดายัตซึ่งเคยต้องโทษจำคุกมาแล้วนานกว่า 6 ปีจากการทำกิจกรรมเพื่อสิทธิพลเมืองอย่างสันติ ไม่ได้เผชิญกับการลงโทษจากรัฐบาลในข้อหาประท้วงการยิงเครื่องบินยูเครนตกซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครต้องโทษทางอาญาแต่เพียงลำพัง
มีชาวอิหร่านอีกหลายสิบคนที่ได้รับโทษจำคุก บางคนก็ถูกเฆี่ยนตีที่กล้าแสดงความคิดเห็นต่อต้านบทบาทของ IRGC ในโศกนาฏกรรมครั้งนี้
สหรัฐฯ ไม่เคยลืมความทุกข์ทรมานของชาวอิหร่าน รวมถึง บาฮาเรห์ เฮดายัต และผู้ประท้วงคนอื่น ๆ ในฐานะที่พยายามใช้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน สหรัฐฯ ยังคงเล็งเห็นถึงการละเมิดสิทธิของรัฐบาลอิหร่าน การคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล รวมถึงรัฐมนตรี ผู้พิพากษา ผู้ใช้กฎหมาย และผู้นำทางทหารที่ใช้อำนาจในการปราบปรามผู้ที่ขัดแย้ง
รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ (Mike Pompeo) กล่าวว่า "เราแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโลกกำลังจับตามอง และในขณะที่รัฐบาลอิหร่านยังคงทำให้ประชาชนของตนต้องตกเป็นเหยื่อที่ทุกข์ทรมานอย่างยาวนานที่สุด เราจะไม่นิ่งเฉย สหรัฐฯ…จะสนับสนุนเสียงของชาวอิหร่านที่ถูกเพิกเฉยมาเป็นเวลายาวนาน”
