บทบรรณาธิการที่สะท้อนทัศนะของรัฐบาลสหรัฐฯ
หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เพิ่มความพยายามในการค้นหาที่มาของโควิด-19
หลังจากการสอบสวนที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ตามความประสงค์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หน่วยงานต่าง ๆ ได้รวบรวม “สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้” สองอย่างเกี่ยวกับการที่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น ตามรายงานที่ทำเนียบขาวได้รับในเดือนพฤษภาคม นั่นคือไวรัสอาจเกิดจากการที่มนุษย์สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง
ในแถลงการณ์ที่ประกาศความประสงค์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการติดตามและวิเคราะห์เพิ่มเติม ระบุว่า หน่วยงานต่าง ๆ ยังไม่บรรลุข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 ในขณะที่สมาชิกของหน่วยงานข่าวกรองแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งเอนเอียงไปทางสถานการณ์แรก และอีกฝ่ายเอนเอียงไปทางอย่างหลัง – แต่ความเชื่อมั่นในทั้งสองสถานการณ์นี้ยังอยู่ในระดับต่ำหรือปานกลาง โดยที่ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมินว่าสถานการณ์ไหนมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ประธานาธิบดีไบเดนได้ประกาศว่า ขอให้หน่วยงานข่าวกรอง “เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า” ซึ่งอาจทำให้สามารถเข้าใกล้ข้อสรุปขั้นสุดท้ายและรายงานกลับมาภายใน 90 วัน โดยเขาต้องการทราบถึงส่วนต่าง ๆ ที่อาจจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงคำถามเฉพาะเจาะจงสำหรับประเทศจีน
ทั้งนี้ ความพยายามครั้งใหม่นี้จะรวมไปถึงงานในห้องทดลองแห่งชาติของสหรัฐฯ และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการทำงานของหน่วยงานข่าวกรอง
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเสริมว่า สหรัฐฯ จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลกที่มีความคิดเหมือน ๆ กันต่อไป เพื่อกดดันให้จีนเข้าร่วมในการสอบสวนระหว่างประเทศ ที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์เต็มรูปแบบอย่างโปร่งใส และให้การเข้าถึงข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ทั้งนี้ โควิด-19 ได้คร่าชีวิตผู้คนนับล้านทั่วโลก โดยในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 600,000 ราย รองเลขาธิการทำเนียบขาว Karine Jean-Pierre กล่าวว่า เราจำเป็นจะต้องไปให้ถึงก้นบึ้งของจุดกำเนิดของการระบาดใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่ทำความเข้าใจกับโรคระบาดครั้งนี้เท่านั้น แต่เพื่อทำความเข้าใจสำหรับการระบาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย